มาเก๊า 888 บุกค้นคอนโด
บุกค้นคอนโด เบนซ์ เดม่อน พี่ใหญ่ 4 บ. วงจรปิดชัด เพิ่งจ้างคนขนของหนี หลังเผ่น

มาเก๊า 888 วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 ได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่สอบสวน บช.สอท. ได้ทำกาารรวบรวม

หลักฐาน ขออำนาจศาล ออกหมายจับ เว็บพนันมาเก๊า 888 ทั้ง 13 ราย โดยในจำนวน ผู้ที่ถูก ออกหมายจับ คือ นายชัยวัฒน์ ขจรบุญถาวร อายุ 37 ปี

มาเก๊า 888 เบนซ์ เดม่อน

หรือ เบนซ์ เดม่อน อดีตหวานใจของ นักแสดงสาว ดิว อริสรา และยังเป็น พี่ชายคนโต ในตระกูล 4 บ.

ผู้ต้องหา ตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 325 /2566 ลงวันที่ 31 มกราคม ในความผิดฐาน ร่วมกันเป็นผู้จัด ให้มีการเล่น หรือ ทำอุบายล่อ ช่วยประกาศ การโฆษณา หรือชักชวนโดยตรง หรือทางอ้อม ให้ผู้อื่น เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, ร่วมกันฟอกเงิน รวมอยู่ด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี

มาเก๊า 888 โดน

เบนซ์ เดม่อน พร้อมกับครอบครัวได้พากันหลบออกนอกประเทศไปแล้ว

โดยมีรายงานว่าไปกบดานอยู่ที่ฮ่องกง รายงานจากชุดคลี่คลายคดี พบว่า หลังจากที่นักแสดงสาว ดิว อริสรา ออกมาเปิดโปงเว็บพนันออนไลน์ มาเก๊า 888 พี่น้อง 4 บ. ได้รีบปิดช่องทางสื่อสารบนโลกออนไลน์ทุกช่องทางทันที รวมทั้งปิดเว็บพนันดังกล่าว และก็รีบเดินทาง ออกนอกประเทศ ไปกบดานที่ประเทศฮ่องกง

ขณะที่จากปฎิบัติมาเก๊า 888 Ep-3 ปูพรม 30 จุดทั่วประเทศ ได้เข้าค้นคอนโดหรู ย่านสุขุมวิท ซึ่งที่เป็นพักของ เครือข่ายพี่น้อง 4 บ. พบว่าเป็นห้องชุดของ เบนซ์ เดม่อน ซึ่งแม้จะไม่เจอตัวผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่พบตู้เซฟจำนวนหลายตู้ ที่ถูกเก็บไว้ภายในตู้อีกที โดยต้องประสานช่างมาเปิดตู้เซฟหาหลักฐานเชื่อมโยง

นอกเหนือจากนี้มีการตรวจสอบ กล้องวงจรปิด พบเบาะแสสำคัญว่า พี่น้อง 4 บ. ได้ว่าจ้างบริษัทเอกชน ให้มา

ขนย้ายสำคัญ รวมทั้งเงินในตู้นิรภัย จากคอนโดหรูดังกล่าว ออกไปตั้งแต่ วันที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เวลา 02.28 น. ซึ่งตอนนี้ เจ้าหน้าที่ กำลังติดตามว่า นำของไปซุกซ่อนที่ไหน

จับกุม

รวบตัว ซิโก้ เกี่ยวข้อง มาเก๊า 888 ค้านประกันตัว ตร. เปิดเผย น้องเล็ก 4 บ. ไม่เครียดถูกจับขัง

ตำรวจทลายเครือข่ายมาเก๊า 888 รวบตัว นายซิโก้ ค้านประกันตัว เปิดเผยน้องเล็ก 4 บ. ไม่เครียดถูกจับขัง เตรียมส่งตัวคืนต้นสังกัด 7 กุมภาพันธ์

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ได้รับรายงานว่า พนักงานสอบสวน บก.สอท.3 คุมตัว นายณัฐพงศ์ หรือ ซิโก้ อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี ผู้ต้องหา

ตามหมายจับศาลอาญาที่ 325 /2566 ลงวันที่ 31 มกราคม ไปทำการขออำนาจศาลอาญารัชดาฝากขังผัดแรก ในความผิดดังนี้

ร่วมกันเป็น ผู้จัดให้มี การเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศการโฆษณา หรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่น เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
ร่วมกันฟอกเงิน

โดยทางเจ้าหน้าที่สอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว เพราะเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงและเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

บุกค้นบ้าน

เปิดปฏิบัติการตำรวจทลายเครือข่าย มาเก๊า 888

วานนี้ (3 เดือนกุมภาพันธ์) ทางตำรวจ บช.สอท. ได้เปิดปฏิบัติการ ทลายเครือข่าย มาเก๊า 888 ล้อม 8 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ – ปริมณฑล และ

จังหวัดอุดรธานี ก่อนจับกุมนายซิโก้ได้ จากนั้นจึงนำตัว มาสอบปากคำ โดยทาง พล.ต.ต. วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. เป็นผู้สอบสวนด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตาม ได้มีรายงานว่า นายซิโก้ ยังคงให้การ ปฏิเสธ ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับ เว็บพนันมาเก๊า 888 ซึ่งในส่วนนี้ อยู่ระหว่าง การขยายผล ตรวจสอบ

พยานหลักฐานที่ยึดได้ จากการปฏิบัติการดังกล่าว โดยวันนี้ (4 เดือนกุมภาพันธ์) เวลา 14.00 น. พล.ต.ท. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จะเรียกประชุม เพื่อวางแนวทางสำหรับในการดำเนินการ ขยายผลเครือข่าย ดังกล่าวต่อไป

ค้นคอนโด

ตำรวจสืบข้อมูลพบ นายซิโก้ มีชื่อเป็นกรรมการบริษัท 4 ที่

ประกอบกิจการภัตตาคาร-สถานที่พักผ่อนตากอากาศ
รับเหมาก่อสร้างอาคาร อาคารพาณิชย์ อาคารที่อยู่อาศัย บ้านจัดสรร สถานที่ทำการ ถนน สะพาน เขื่อน อุโมงค์
การก่อสร้างอย่างอื่นทุกชนิด
ธุรกิจการบริการด้านเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์

อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างชุดสืบสวนได้ทำการขยายผลว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายพนันออนไลน์หรือไม่

ตำรวจเผย น้องเล็ก 4 บ. ไม่เครียดถูกจับขัง

พ.ต.อ. จักรพงศ์ นุชผดุง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีของ ร้อยตำรวจเอก คุณากร หรือผู้กองไบร์ท

ระบุว่า ทาง สภ. ได้รับตัวไว้ เป็นการรับตัวของข้าราชการตำรวจ ในเรื่องของการกระทำความผิดวินัย ซึ่งทางต้นสังกัดได้มีการพิจารณาโทษมาแล้ว โทษที่ผิดวินัย

ก็คือ คุมขัง 7 วัน มีการนำตัวมาพร้อมกับหนังสือส่งตัวรวมทั้งมาฝากขังไว้ที่ สภ. โดยรับไว้ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีกำหนด 7 วัน ซึ่งจะถึงกำหนดในวันที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์

สำหรับภาวะจิตใจของนายตำรวจคนดังกล่าว เบื้องต้นจากการพูดคุยไม่มีลักษณะอาการเครียดแต่อย่างใด ขณะเดียวกันก็มีทางเพื่อนและคนใกล้ชิดมาติดต่อ เพื่อมาส่งอาหารตามปกติ โดยขั้นตอนต่อจากนี้ เมื่อถึงกำหนดทางต้นสังกัด จะมารับตัวนายตำรวจคนดังกล่าวไปดำเนินการตามขั้นตอน หรือไม่ เมื่อครบกำหนดทาง สภ. ก็จะลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและให้นายตำรวจคนดังกล่าวจะไปรายงานตัวยังต้นสังกัดตามขั้นตอนต่อไป

กองสลากพลัส รางวัลที่1
แตกอีก 54 ล้าน! ลูกค้ากองสลากพลัสถูกรางวัลที่ 1 ชาวโคราชรับเต็มๆ 30 ล้าน แต่ต้องรอเงิน 7 วัน

แตกอีก 54 ล้าน! ลูกค้า กองสลากพลัส ถูกรางวัลที่ 1 ชาวโคราชรับเต็มๆ30 ล้าน แต่ต้องรอรับการโอนเงินใน 7 วัน เหตุดีเอสไอต้องร่วมตรวจสอบ ภายหลัง

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกรางวัลงวดที่ 1 ก.พ.2566 โดยรางวัลที่ 1 ออกหมายเลข 297411 รางวัลเลขท้าย 2 ตัว ออกหมายเลข 92 รางวัลเลขหน้า 3 ตัว

ออก 181 , 789 รางวัลเลขท้าย 3 ตัว ออก 101 , 664

เมื่อออกรางวัลเสร็จมีทั้งคนที่สมหวังและผิดหวังจากการออกรางวัลงวดวันที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์2566 โดยเฉพาะผู้ที่ซื้อสลากกับกองสลากพลัส ภายหลังจากนอท กองสลากพลัส โดยดีเอสไอแจ้ง 2 ข้อกล่าวหา และอายัดบัญชี ก่อนประกาศยุติการขายสลากชั่วคราว

ส่วนการจ่ายเงินรางวัลกับผู้ที่ถูกรางวัลกับกองสลากพลัส ดีเอสไอและกองสลากพลัสจะร่วมกันทำงาน แต่ต้องใช้เวลาสำหรับการตรวจสอบ โดยจะสามารถโอนเงินให้ลูกค้าที่ถูกรางวัลได้ในวันที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์2566

ล่าสุดเพจกองสลากพลัส โพสต์ลอตเตอรี่ของลูกค้าที่โชว์ดีถูกรางวัลที่ 1 ในงวดนี้ มีทั้งสิ้น 9 ใบ จำนวน 54 ล้านบาท แยกเป็นลูกค้าชาวโคราช ถูกลอตเตอรี่ 5 ใบ เป็นเงิน 30 ล้าน ลูกค้าชาว

อุตรดิตถ์ถูก 2 ใบ เป็นเงิน 12 ล้าน ลูกค้าชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 2 ใบ เป็นเงิน 12 ล้าน

กองสลากพลัส ถูกหวย
ดีเอสไอ แจ้งแล้ว! ขั้นตอนรับเงินรางวัล ใครถูกหวยกองสลากพลัส 1เดือนกุมภาพันธ์นี้

ดีเอสไอ แจ้งขั้นตอนรับเงินรางวัล ผู้ถูกลอตเตอรี่กับกองสลากพลัส งวดวันที่ 1 ก.พ.2566 เปิดเผย จะตรวจสอบ ควบคุมการดำเนินการในทุกขั้นตอน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์2566 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมกับ นางพิชญา ธารากรสันติ

โฆษกดีเอสไอ ลงพื้นที่บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของสลากกินแบ่งรัฐบาล คลายข้อสงสัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนเกี่ยวกับการขึ้นสลากกินแบ่งรัฐบาล ในงวดประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์2566 ถ้าเกิดมีการถูกรางวัล

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2566 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส

ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับคดีพิเศษ จำนวน 2 คดีก็คือคดีพิเศษที่ 288/2565 ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และคดีพิเศษที่ 6/2566 ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่น

การพนันออนไลน์หรือพนันทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันฟอกเงิน โดยได้แจ้งข้อหากับ นายพันธ์ธวัชฯ และบริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด และได้มีการอายัดบัญชีบัญชีเงินฝากธนาคารที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย

กองสลากพลัส ได้รางวัล

ในเบื้องต้น ดีเอสไอ ขอเรียนให้ทราบถึงการรับเงินรางวัลของผู้ที่ถูกรางวัลสำหรับในการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากกองสลากพลัส งวดประจำวันที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์2566 ว่าทางกองสลากพลัสจะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบชื่อ พร้อมทั้งข้อมูลเฉพาะบุคคลของคนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากกองสลากพลัส ที่มีเลขที่ตรงกับทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลประกาศผลการออกรางวัล

โดยคณะเจ้าหน้าที่สอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ จะตรวจสอบ ควบคุมการดำเนินการในทุกขั้นตอน ทั้งการตรวจรายชื่อคนซื้อสลากฯ รายชื่อผู้ถูกรางวัล และขั้นตอนการส่งมอบรางวัล โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่สอบสวนคดีพิเศษ เพื่ออำนวยความยุติธรรมและรักษาสิทธิของประชาชนที่ถูกรางวัล

ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกรางวัลสามารถติดต่อรับสลากกินแบ่งรัฐบาลฉบับจริงจากกองสลากพลัส และสามารถนำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลไปขึ้นเงินรางวัลต่อสำนักงานกินแบ่งรัฐบาลตามขั้นตอนต่อไป

รางวัลกองสลากพลัส

กองสลากพลัส แถลงสรุป ลูกค้าถูกรางวัลโอนให้เหมือนเดิม แต่งวดนี้ได้เงินช้า 7 วัน

กองสลากพลัส แถลงสรุป ลูกค้าถูกรางวัลโอนให้เหมือนเดิม แต่งวดนี้ได้เงินช้า 7 วัน เหตุจะต้องรอให้ดีเอสไอตรวจสอบ-เข้ามาควบคุมการขึ้นเงินรางวัล

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์66 ที่กองสลากพลัส สำนักงานใหญ่ หลังจาก คุณพงษธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวน

คดีพิเศษ และพนักงานสอบสวน เดินทางเข้ามาพูดคุยเพื่อหาข้อสรุป กับนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือนอท กองสลากพลัส ในกรณีถ้าหากลูกค้าถูกรางวัล มีขั้นตอนการรับเงินแบบไหน

นายพันธ์ธวัช กล่าวว่า ภายหลังจากได้คุยพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีแนวทางทำงานด้วยกันก็คือ ดีเอสไอจะเข้ามาควบคุมการขึ้นเงินรางวัลของลูกค้า งวดทุกวันที่ 1 กุมภาพันธ์2566 โดยมีขั้นตอน ตั้งแต่วันที่ 1 – 5 ก.พ.2566 ทางกองสลากพลัสจะคัดเลือกลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัล จากลอตเตอรี่ทั้งหมด 8.2 ล้านใบ

หวยกองสลากพลัส

หลังจากนั้นวันที่ 6 ก.พ.2566 จะให้ตัวแทนของกองสลากพลัส นำลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัล ไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานกินแบ่งรัฐบาล และภายในวันที่ 7 ก.พ.2566 กองสลากพลัสจะโอนเงินให้ลูกค้าที่ถูกรางวัลทุกคน โดยมีดีเอสไอควบคุมดูแลทุกขั้นตอน

นายพันธ์ธวัช กล่าวอีกว่า หากลูกค้าถูกรางวัลงวดนี้ จำเป็นที่จะต้องถูกหักภาษี 0.5 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้รับเต็มเหมือนครั้งที่ผ่านมา ซึ่งปกติแล้วหลังออกรางวัล 2 ชั่วโมง ลูกค้าจะได้รับเงินเลย แต่งวดนี้จะได้รับเงินช้า 6-7 วัน เป็นความผิดของตนเอง อยากให้ลูกค้าเชื่อมั่น ได้รับเงินแน่นอน ระบบไม่มีปัญหาเพราะว่ามีข้อมูลลูกค้าอยู่แล้ว

BoycottBOC บิว จักร์พันธ
ชาวเน็ตติด #BoycottBOC หลังผู้บริหารโพสต์ คลิปกอดให้กำลังใจ บิว จักรพันธ์

# BoycottBOC ยังเป็นประเด็นร้อน ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ อย่างหนัก สำหรับกรณีนักแสดงหนุ่ม ซีรีส์วาย บิว จักรพันธ์ พุทธา เปิดใจแถลงข่าว ครั้งแรกเงื่อนประเด็นรังควานร่างกายอดีตแฟนสาวนักเขียน ที่นอกเหนือจากที่จะไม่ได้ออกมา แถลงคู่กับอดีตแฟน สาวตามที่ต้นสังกัด Be On Cloud แจ้งเอาไว้ภายในจดหมาย  ตั้งแต่แรก

เพราะว่าฝ่ายหญิง ต้องการจะพูดเรื่องดังกล่าว ในชั้นศาล ทำให้ บิว จักรพันธ์ ออกมาเปิดใจ เพียงแค่คนเดียว และก็ในคลิปดังกล่าว ก็มีเพียงแต่ไม่กี่นาที แล้วก็ ไม่ได้ออกมาอธิบายถึง เรื่องที่เกิดขึ้นแบบชัดเจน ทำให้กระแส ยิ่งร้อนแรงมากขึ้น รวมทั้งกระแส ดังกล่าวดูจะยิ่ง ร้อนแรงมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อ ปอนด์ กฤษดา วิทยาขจรเดช ผู้บริหารค่าย Be On Cloud ก็โพสต์คลิปกอด บิว จักรพันธ์

BoycottBOC งาน

พร้อมด้วยเขียนข้อความว่า

“บิวไม่เคยเป็นน้องที่ไม่น่ารัก หรือ ไม่ดีกับพี่แม้แต่ครั้งเดียว และมันยังคงเป็นแบบนั้นเสมอ ขอให้ทุกอย่างกับทุกคนดีขึ้น และ เหมาะสมในเร็ววัน @บิวคนใหม่” จากนั้น ก็มีแฟนคลับ รายหนึ่งคอมเมนต์ว่า “you never protected him, stop acting like you care” ซึ่งแสดงว่า

คุณไม่เคยปกป้องเขา เลิกทำเป็นเหมือน คุณแคร์เขาได้แล้ว ก่อนที่ปอนด์จะตอบกลับ ไปแบบสุดเดือดว่า “ยุ่งไรวะ รู้ไร ว่าเค้าผ่านไร กันมาบ้าง นี่ ig ส่วนตัวจะโพสต์ไรก็เรื่องของเจ้าของ ig ไม่ชอบ ก็ block ไปดิ จะมาดูมาเม้นเพื่อไรวะ สะเหล่อ”

ทำเอาชาวเน็ต ที่ได้เห็นคลิปแล้วก็ ข้อความดังกล่าว พากันโพสต์ข้อความ วิจารณ์สนั่นโซเชียล และติดแฮชแท็ก #BoycottBOC อาทิ #BoycottBOC อันนี้ช็อกจริง ๆ นะ อย่าไปมองหา ถึงความเป็นคนเลย เอาเพียงแค่วุฒิภาวะ ในฐานะซีอีโอค่าย ก็ไม่ผ่านแล้วปะ

การควบคุมอารมณ์แสดงออกต่อ ที่สาธารณะติดลบอะ รู้ดีว่าตัวเองมีซอฟต์พาวเวอร์หลายด้าน แต่ก็ยังเลือกที่จะแสดงออกแบบนี้ โคตรแย่, กว่าจะเข็น ยอดฟอล ขึ้นได้แต่ละที วันนี้พัง เพราะอิปธ.ค่ายพาล้มทีเดียว

ตู้มมมมม จาก9แสนเหลือแค่นี้แหละ และยอดลง เรื่อย ๆ ทุกช่องทาง ก็ตามนั้นแหละ #BoycottBOC, “ลดความเป็นครอบครัว เพิ่มความเป็นคนบ้างนะประธาน” มีความเป็นกลาง ของประธาน = # BoycottBOC ฯลฯ

นอกจากนี้ ยังมีคนตั้ง ข้อสังเกตว่า

การแสดงดนตรี KinnPorsche World Tour 2023 ซึ่งเป็นคอนเสิร์ต ของค่าย Be On Cloud ที่จะจัดขึ้น วันที่ 25 เดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยเปิดให้ กดจองบัตรวันนี้ (29 ม.ค. 2566) บัตรเหลือเยอะแยะกว่าปกติ ทั้งที่งานก่อนหน้า นี้บัตรหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่นาที กลายเป็นกระแสวิจารณ์และก็ติดแฮชแท็ก #kinnporscheworldtourinbkk คู่กับแฮชแท็ก #BoycottBOC ด้วย

“บิว จักรพันธ์” ประกาศ ลาออกจากค่าย รับชีวิตพังทลายจากข่าว หายใจยังผิด พร้อมสู้คดี แฟนนักเขียนที่ชั้นศาล

บิว จักรพันธ์ แถลงลาออก จากการ เป็นนักแสดงสังกัด Be On Cloud ยันที่ผ่านมากล่าว ด้วยความซื่อสัตย์จริง แต่ความจริง ที่เห็นในนั้น ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด บอกชีวิตพังทลาย แม้แต่หายใจ ก็ยังผิด พร้อมสู้ที่ชั้นศาล

หลังจากที่ต้นสังกัด Be On Cloud ออกมายกเลิก การแถลงข่าว คู่กันเมื่อวานนี้ กับกรณี “บิว จักรพันธ์ พุทธา” นักแสดงซีรีส์วายเรื่อง “KinnPorsche The Series” โดนอดีตแฟน สาวนักเขียน “ปอย พรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ” เปิดโปงพฤติกรรม ด้านมืด บนโลกโซเชียล แล้วก็ปฎิเสธ ที่จะร่วมแถลงข่าว จัดการประเด็นคู่กัน หลังจากที่เคยแจ้ง ไว้ก่อนหน้านี้ โดยแฟนสาวนักเขียน ได้ร่อนจดหมายแจกแจงเช่นกัน

พร้อมกล่าวว่า เจอกันที่ศาลเท่านั้น แล้วก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแม้มีคำกล่าว ที่ไม่เป็นความจริงออกไป ทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด

BoycottBOC บิวแถลง

วันนี้ บิวก็ได้ออกมาแถลงข่าวเปิดใจถึงเรื่อง ทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยเปิดเผยว่า….

“สวัสดีครับผมนาย จักรพันธ์ พุทธา วันนี้ที่ผมออกมาพูดเพราะเป็นความต้องการของผมเอง จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น ที่เป็นข้อพิพาททางสังคมอยู่ ณ ตอนนี้ มันได้ส่งผลกระทบกับทางค่าย ครอบครัว และเพื่อนฝูงนักแสดงของผมที่เปรียบเสมือนครอบครัว และคนใกล้ตัวของผมเองด้วย และเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบมากไปกว่านี้ ผมอยากจะแจ้งให้ทุกคนทราบว่าผม นาย จักรพันธ์ พุทธา ขอประกาศลาออกจากการเป็นนักแสดงในสังกัดค่าย Be On Cloud ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

สิ่งที่ผมกำลังจะเอ่ยต่อแต่นี้ไป ผมยืนยันว่า ผมพูดจากใจจริง รวมทั้งผมขอบอกเลยว่า ผมกล่าวซื่อสัตย์ จริงทุกประการ ในวันนั้นที่ผม ออกมากล่าว ผมมีเจตนาที่จะยุติ เรื่องราวทั้งหมด ที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตผม

มาสักระยะนึง แล้วครับ จนกระทั่งวันนี้ผมตัดสินใจ ว่าผมจะต้องออกมาต่อสู้ เพื่อป้องกันตัวเองบ้าง สิ่งที่ทุกคนรับทราบหรือพบเห็น ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด ผมเป็นมนุษย์คนนึง ผมยอมรับว่า ผมไม่ได้สมบูรณ์แบบ หากว่าสิ่งที่ปรากฎ จะตีความว่าผมแย่เพียงแค่ไหนก็ตาม

และสิ่งที่ผมโดน มันเกินกว่าที่ผมจะรับไหว ชีวิตผมต้องพังทลายลง ทั้งหน้าที่การงาน เกียรติศักดิ์ สังคม ครอบครัว ทุกอย่าง ตอนนี้ ผมไม่เหลืออะไร แล้วครับ แม้กระทั่งตอน นี้ที่ผมกำลังนั่งหายใจอยู่ ผมก็ยังผิด ผมไม่สามารถทำอะไรไปมากกว่านี้ได้แล้วครับ

สิ่งที่ผมอยากจะพูดก็คือ ผมอยากให้ ทุกคนรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้น มันเป็นเพียงแค่ส่วนนึง จากนี้ผมขอเอาความจริง ทั้งหมดไปสู้ในชั้นศาล ผมจะต่อสู้ เพื่อคนที่ผมรัก ที่ยังรักผม คนที่เชื่อถือในตัวผม รวมทั้งตัวผมเองด้วย ผมขอให้ทุกคน อดทน แล้วก็ผมก็จะอดทน รวมทั้งเข้มแข็ง เพื่อรอผลคดีในชั้นศาล จากนี้ผมยังเชื่อว่าความจริง จะชนะในที่สุด แล้วก็ผมก็เชื่อว่า กระบวน การยุติธรรมจะให้ ความยุติธรรมกับผม และก็ผมก็ต้องขอ ขอบคุณ อย่างยิ่งที่ทาง บริษัท Be On Cloud ให้โอกาสผมได้บอกเป็นครั้งสุดท้าย ผมขอขอบคุณมากครับ (ยกมือไหว้)”.

เดอะ เบทเทอร์ ทายาท
ทายาทรุ่น 2 รพ.เกษมราษฎร์ จับมืออดีต บก.โพสต์ทูเดย์ ปั้นสำนักข่าวใหม่ "The Better"

เปิดตัวสำนักข่าวใหม่ “เดอะ เบทเทอร์” อดีต บก.โพสต์ทูเดย์ประสานมือผู้สืบสกุลรุ่นที่ 2 เครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ แล้วก็เจ้าของสถาบันสอนการลงทุน ปั้นสื่อออนไลน์ พร้อมกอง บก.ล้วนเป็นอดีต บก.ข่าวสารโพสต์ทูเดย์ เน้นข่าวสารเศรษฐกิจและการลงทุน ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้าน

25 มกราคม รายงานข่าวสารแจ้งว่า บริษัท เดอะ เบทเทอร์ นิวส์ จำกัด ได้ทำพิธีเปิดสำนักข่าวที่ชื่อว่า เดอะ เบทเทอร์ (The Better) ที่ห้องเพิร์ลโดม อาคารเพิร์ลบางกอก ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ซึ่งสำนักข่าวดังกล่าวได้วางรูปแบบให้เป็นสำนักข่าวด้านเศรษฐกิจรวมทั้งการลงทุน หลังจากได้เปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กเพจเป็น The Better news เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 และเริ่มเสนอรายละเอียดไปเมื่อวันที่ 21 เดือนธันวาคม 2565

ที่ผ่านมาสำหรับ บริษัท เดอะ เบทเทอร์ นิวส์ จำกัด มีนายกันตพร หาญพาณิชย์ ทายาทรุ่นที่ 2 ของบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ แล้วก็โรงพยาบาลเวิลด์ เมดิคอล พร้อม นายกระทรวง จารุศิระ ผู้ริเริ่มโครงการซูเปอร์ เทรดเดอร์ ไทยแลนด์ (Super Trader Thailand) และนายวุฒิ นนทฤทธิ์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ รวมทั้งโพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นกรรมการบริษัท

นายกันตพรกล่าวว่า ตนไม่ได้มีความคิดที่จะเข้าสู่ธุรกิจสื่อตั้งแต่ต้น แต่ปีที่ผ่านมาได้รู้จักกับนายวุฒิ เลยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสำนักข่าวแห่งนี้ โดยมีสองเรื่องหลักที่ต้องการมองเห็น รวมทั้งนายวุฒิมองเห็นพ้องด้วย คือ เราต้องการทำสื่อที่ดีมากยิ่งกว่า เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าในอนาคต ซึ่งนายวุฒิมีประสบการณ์ด้านข่าวสารกว่า 30 ปี กับการนำเสนอ ในช่องทางที่ดีมากยิ่งกว่า ซึ่งเป็นไปตามยุคตามสมัย สามารถเข้าถึงกลุ่มคนสมัยใหม่ที่จะขับเคลื่อนประเทศในอนาคต

เดอะ เบทเทอร์ พีท

อีกเรื่องหนึ่ง คือ นายวุฒิยืนยันความเป็นกลางของสำนักข่าว

ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องสำคัญของสำนักข่าว การที่สำนักข่าวเป็นกลางนั้นพูดง่าย แต่ความเป็นกลางในความหมายของแต่ละคนบางทีอาจไม่เหมือนกัน สำหรับตนไม่ได้หมายความว่าพูดถึงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่ากันแล้วเรียกว่าเป็นกลาง แต่เป็นการเสนอความจริงบนหลักฐานที่ประจักษ์ ปราศจากการเสนอแนะของผู้นำเสนอ ซึ่งหมายถึงผู้สื่อข่าวหรือสำนักข่าว ซึ่งจะมีคุณประโยชน์แก่ประชาชนที่จะสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจให้เกิดคุณประโยชน์สูงสุด

ด้านนายกระทรวงกล่าวว่า โดยส่วนตัวรู้จักกับนายวุฒิหลายปี นับว่าเป็นพี่ชายและก็ผู้ใหญ่ที่เคารพรักที่สุด พอทราบดีว่านายวุฒิมีไอเดียที่จะทำสำนักข่าวแห่งใหม่ ตนจึงสนใจ เพราะเหตุว่าในมุมของตัวเองทำสถาบันสอนการลงทุน รู้ดีว่าคนไทยหลายท่านแสวงหาวิชาความรู้ ตนเป็นคนอีกคนหนึ่งที่พยายามจะไม่เสพข่าวอาชญากรรม ไม่ชอบอ่านข่าวชาวบ้าน ก่อนหน้านั้นก็จะอ่านข่าวเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน เอสเอ็มอี เนื่องจากมีความคิดว่าสามารถพัฒนาตัวเองและก็มีความรู้มากขึ้น

พอเป็นหนึ่งในผู้จัดตั้ง ก็เลยมีความคิดว่าพวกเราสามารถที่จะพัฒนาตนเองให้มีความรู้มากขึ้น ผ่านการอ่านสื่อที่มีคุณภาพ เมื่อปณิธานของนายวุฒิและตนตรงกัน ก็บอกว่าในมุมของการทำสถาบันสอนการลงทุน มีลูกลูกศิษย์หลายพันคน มีคนที่เก่งในการลงทุนหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน จะนำความรู้ทั้งหมดบนโลกที่เกี่ยวกับการเงิน การลงทุนมาเผยแพร่ ซึ่งเมื่อความต้องการตรงกันจึงเป็นพันธกิจที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งที่จะถ่ายทอดองค์วิชาความรู้ให้ทุกคนได้เห็นว่าทำไมต้องพัฒนาความสามารถในตัวเรา เพื่อชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

เดอะเบทเทอร์

ส่วนนายวุฒิกล่าวว่า นับจากวันที่เจอกับนายกันตพร

ถึงวันที่เริ่มตัดสินใจ ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเศษ นายกันตพรแล้วก็นายกระทรวงเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจแล้วก็เชื่อถือในสถาบันสื่อ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยดียิ่งขึ้น ที่ผ่านมาตนแล้วก็ทีมงานมีนายทุนหลายกลุ่มเสนอตัวส่งเสริม แต่สุดท้ายก็ต้องการจะอยู่กับนายทุนรุ่นใหม่จริง ๆ ที่ตัดสินใจทำธุรกิจโดยไม่ได้แสวงหาประโยชน์สูงสุดทางธุรกิจ ตนสบายใจที่มาเลือกทั้งสองคน

ดังนี้ สิ่งที่อยู่ในใจก็คือ ตนมีประธานที่ปรึกษา คือ นาย ณ กาฬ เลาหะวิไลย อยู่ในวงการสื่อมา 35 ปี ตนมีประสบการณ์ 30 ปี ส่วนน้อง ๆ ประมาณ 25 ปี

ลดหลั่นกันไป ทุกคนทำข่าวที่เกิดขึ้นในประเทศขนาดนี้ เสียดายว่าเพราะเหตุไรประเทศไทยหยุดนิ่งอยู่เท่านี้

เพราะเหตุใดความเจริญไม่พัฒนาก้าวไกลไปกว่านี้ ส่วนหนึ่งก็เนื่องจากว่าการเสนอข้อมูลข่าวสารสารจากสื่อหลายสื่อ สื่อที่ดีมีเยอะแยะ แต่สื่อที่มีคอนเทนต์แบบมีอคติก็เยอะ สื่อที่บางทีอาจเสนอข้อมูลไม่ครบก็มี เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมเกิดความสับสน ไม่ชัดเจน

ตนได้เรียนกับนายกันตพรรวมทั้งนายกระทรวงตั้งแต่วันแรกว่า หากจะทำสำนักข่าว จะทำสิ่งแรกคือ เอาความเป็นจริงที่เป็นเรื่องจริงครบบริบรูณ์ ให้คนไทยทุกคน ทุกระดับมีสิทธิ์เข้าถึงข้อพิสูจน์อย่างเท่าเทียมกัน แล้วรู้ดีว่าเรื่องจริงประเทศไทยคืออะไร ในด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมืองก็ตาม ทุกคนจะเอาสิ่งนี้ไปพัฒนาตนเอง ยกระดับคุณภาพของครอบครัว สุดท้าย ธุรกิจเติบโต สังคมไทยดียิ่งขึ้น ประเทศไทยก็จะดียิ่งขึ้น เป็นคอนเซ็ปต์ที่ตั้งใจจะทำ และทีมงานทุกคนตั้งใจจริงที่จะเสนอข้อมูลกลุ่มนี้

ทายาทรุ่น2 รพ.เกษมราษฎร์

รายงานข่าวสารเพิ่มเติมบอกว่า เดอะ เบทเทอร์

สำหรับโครงสร้างของสำนักข่าวเดอะ เบทเทอร์ มีนาย ณ กาฬ เลาหะวิไลย อดีตบรรณาธิการอำนวยการเครือบางกอกโพสต์ เป็นประธานที่ปรึกษา มีนายวุฒิ นนทฤทธิ์ อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และก็โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการบริหาร และ นายวิษณุ นุ่มทอง อดีตบรรณาธิการข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

และก็อดีตผู้ช่วยบรรณาธิการ โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการข่าวสารการเมือง

นายชนิกา สุขสมจิตร อดีตหัวหน้าข่าวเศรษฐกิจมหภาค หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และก็อดีตหัวหน้าข่าวสารเศรษฐกิจ โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจ, นายเกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง
อดีตผู้สื่อข่าวการเงินหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ แล้วก็อดีตหัวหน้าข่าวการเงินโพสต์ทูเดย์ออนไลน์ เป็นบรรณาธิการข่าวการเงิน และก็ น.ส.ดวงใจ จิตต์มงคล เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ทำหน้าที่สร้างสรรค์เนื้อหาข่าวเศรษฐกิจและก็ธุรกิจการตลาด

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า บริษัท เดอะ เบทเทอร์ นิวส์ จำกัด ลงทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 31 เดือนตุลาคม 2565 ทุนเพื่อการจดทะเบียน 20 ล้านบาท มีนายวุฒิ นนทฤทธิ์

รวมทั้งนายกระทรวง จารุศิระ เป็นกรรมการบริษัท ซึ่งกรรมการลงนามผูกพัน มีนายวุฒิ นนทฤทธิ์ หรือ นายกระทรวง จารุศิระ

ลงลายมือชื่อร่วมกับ นายกันตพร หาญพาณิชย์ หรือ นางสาวชาลิสา พอใช้ได้ หรือ นางสาวลักษมีลาวัลย์ หาญพาณิชย์ รวมเป็นสองคนแล้วก็ประทับตราสำคัญของบริษัท วัตถุประสงค์ธุรกิจตอนจดทะเบียน ประกอบกิจการโรงพิมพ์ มีสำนักงานที่ซอยรามคำแหง 53 เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

ดีเอสไอ อัจฉริยะ
"อัจฉริยะ" แฉหลักฐานเพิ่มอ้าง ดีเอสไอตบทรัพย์

“อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” เปิดเผยวงจรปิด ขณะที่เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ เข้าค้นห้องเช่าคอนโดหรู ของอดีตกงสุล ใหญ่ประเทศนาอูรู ย่านห้วยขวาง เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา อ้างเป็นการ ตบทรัพย์ ตลอดจากพื้นที่ทุ่งมหาเมฆ

วันนี้ (23 ม.ค.2566) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือ เหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยภาพวงจรปิด ของคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง บันทึกภาพ ขณะมีชาย 3 คน อ้างถึงว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เป็นถึงระดับผู้อำนวยการ

ได้ไปแสดงตัว ต่อนิติบุคคลของคอนโด พร้อมอ้างว่า มาสืบคดีพิเศษ เพื่อขอเข้าตรวจหาห้องเช่าที่คาดว่าเป็นห้องของอดีตกงสุลใหญ่ ประเทศนาอูรู โดยไม่แสดงหมายค้น หรือ หมายจับ

ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึก เวลาได้ขณะเข้าไปตรวจหา เวลา 17.54 น. โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที และก็กลับออกมา พร้อมด้วยทรัพย์สินอะไรบางอย่าง ซึ่งนายอัจฉริยะ เปิดเปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นคราวนี้ เป็นการตบทรัพย์ ต่อเนื่องมาจากพื้นที่ทุ่งมหาเมฆ

นอกเหนือจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังอ้างถึงว่า พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ กลุ่มนี้ทำเป็นขบวนการ ก่อเหตุบ่อยครั้ง แล้วก็เกี่ยวข้อง กับการชิงทรัพย์บ้านชาวจีนที่ ต.หนองปรือ จ.ชลบุรี รวมทั้งมีพฤติกรรม เรียกรับสินบนจาก ธุรกิจบ่อทราย น้ำมันเถื่อน รวมทั้งของเถื่อน เพื่อส่งเงินให้กับ ผู้บริหารระดับที่ถือว่าสูงของดีเอสไอ ซึ่งตนต้องการให้มีการเข้าไปตรวจสอบห้องทำงาน ของผู้บริหารของดีเอสไอด้วย

สำหรับหลักฐาน วงจรปิดดังกล่าว นายอัจฉริยะ เคยไปร้องไว้ที่ สถานีตำรวจทุ่งมหาเมฆ ในความผิด ร่วมกันลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน แล้วก็ ร่วมกันบุกรุก ซึ่งจะต้องประสาน ให้ตำรวจ สน.ทุ่มหาเมฆ ส่งข้อมูลให้ ตำรวจ สน.ห้วยขวางในการดำเนินคดีถัดไป

ดีเอสไอ วงจรปิด

สั่งพักราชการ 5 ดีเอสไอ ตบทรัพย์ ชาวจีนปลอมพาสปอร์ต ขณะค้นบ้านพัก กงสุลใหญ่นาอูรู

โฆษกดีเอสไอ เปิดเผย คำสั่ง พักราชการ 5 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ชุดปฏิบัติการร่วมคดี ค้นบ้านพักกงสุล ใหญ่นาอูรู ถูกกล่าวหา ตบทรัพย์แลก ปล่อยตัวแก๊งจีนปลอมพาสปอร์ต ขณะรอง ปลัดกระทรวงยุติธรรม แจง เหตุผลย้าย ‘ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์’ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อตรวจสอบ ข้อเท็จจริง เพราะมีข่าว ระบุพบคนใกล้ชิด เอี่ยว

นางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ผู้ประกาศดีเอสไอ) ได้เปิดเปิดเผยว่า ตามปรากฏข้อความจริงที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยได้นำหลักฐาน การตรวจค้นจับของเจ้าหน้าที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

มีการยักยอกเงินของกลาง แล้วก็เรียกรับ เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ชาวจีน 11 คนที่จับตัวได้ในบ้าน จนเป็นเหตุให้มีการออก หมายจับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวน คดีพิเศษ 5 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกจำนวนหนึ่ง ในฐานความผิดเป็นเจ้าหน้าที่ด้วยกันเรียก รับ หรือยอม จะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตัวเองหรือคนอื่นๆโดยมิชอบ, เป็นเจ้าหน้าที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ,เป็นเจ้าพนักงานด้วยกันเพื่อจะช่วยเหลือคนอื่นมิให้ต้องได้ต้องโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ปิดบัง เอาไปเสียหรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด เป็นกรณีมีมูลว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรง โดยการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย แล้ว

ดีเอสไอ ขณะที่

เพื่อเป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)

ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 57 (10) มาตรา 101,กฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556 ข้อ 78 และข้อ 81 โดยกรณีดังกล่าวเป็นเรื่อง เกี่ยวกับพฤติการณ์ อันไม่น่าไว้วางใจ ถ้าหากให้อยู่ในหน้าที่ ราชการต่อไปจะเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนพิจารณา แล้วก็อาจเกิดการเสียหายแก่ราชการ ก็เลยเห็นควรพักราชการเจ้าหน้าที่อีกทั้ง 5 นายไว้ก่อน

ส่วนคำบัญชา ของนายสมศักดื์ เทพสุทิน เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่ให้ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการ ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และรักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสถา บันนิติวิทยาศาสตร์ แล้วให้ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรวมทั้งให้รักษา ราชการแทนอธิบดีดีเอสไอนั้น

นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเปิดเผยระหว่างการแถลงข่าว ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ (20 ม.ค. 66) ว่า เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นมีการขยายผล ได้มีการให้ข่าวว่า จากพฤติการณ์กรณีดังกล่าวนั้น มีบุคคลใกล้ชิดกับท่านอธิบดี ท่านไตรยฤทธิ์ เข้าไปเกี่ยวข้องในเชิงประสานงาน นี้เองเนื่องมาจาก ข้อสังการของท่านนายกรัฐมนตรี ที่ทำให้เกิดความโปร่งใสที่สุด ซึ่งเพื่อบรรยากาศแวดล้อม

ในการตรวจตราข้อเท็จจริง ลดข้อกังวลเรื่องการให้ข้อมูล เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงยุติธรรม ดังกล่าว 2 ท่านที่ย้ายสลับกัน ทั้งสองท่านมีประสบการณ์ ในกรมที่พึ่งจะย้ายไป ดำรงตำแหน่งอยู่แล้ว อยู่ในกลุ่มภารกิจเดียวกัน

“ช่วงนี้ต้องให้โอกาสท่าน สุริยา ที่ได้รับมอบหมาย จากรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทินเข้าไป อาจใช้คำว่าเข้าไปปัดกวาดบ้านของเราอีกทีหนึ่ง แต่ต้องกราบเรียนว่าทั้งสองท่าน ไม่ได้มีความผิดอะไรเป็นเรื่องที่มีการย้ายเพื่อความเหมาะสม” รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าว

เมียหลวง ฟาดชู้
เมียหลวงฟาดชู้ ถ้าผัวพี่อร่อย อยากได้ก็จ่ายมา – กรรชัย อย่างชอบ รออะไรปรบมือสิครับ !

เมียหลวง ฟาด สามีทหาร-หญิงชู้ ถ้าอยากได้ก็จ่ายมา 6 ล้าน ไม่ยอมปล่อยไปมีความสุขกันง่ายๆฝากถึงเมียน้อย ถ้าเกิดสามีพี่กินดี กินอร่อย ของอร่อยก็จะต้องแพงหน่อยนะน้อง หนุ่ม กรรชัย ถึงกับปรบมือให้ วันที่ 19 เดือนมกราคม 2566 รายการ โหนกระแส พูดคุยถึงกรณีคุณคุณครูสาวที่จับได้ว่าสามีทหารอากาศมีเมียน้อยบุกไปถึงบ้านเจอเสื้อผ้าชุดชั้นในผู้หญิง เต็มห้องนอน แถมชู้ปากแซ่บ บอกสามีพี่ กินดี กินอร่อย

โดย ครูหนิง ผู้เป็นภรรยา เล่าว่า ตนจดทะเบียนกับสามีทหารอากาศ ตั้งแต่ปี 61 จนถึงปี 65 สามีย้ายจากมาปฏิบัติหน้าที่ที่กองบิน 1 จ.นครราชสีมา ตนทำงานที่กรุงเทพมหานคร สามีโทร มาสารภาพพูดว่าไปแอบรักแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อว่าน้ำ เป็นแม่ค้าในตลาด เป็นสาวสายบุญที่ชอบไปทำบุญกับแม่สามีในงานกฐิน งานบุญต่าง ๆ

ตกหลุมรักเพราะว่าเขาดี ครูหนิงจึงยื่นข้อเสนอว่า หากจะมีเมียน้อย ให้เมียน้อยจ่ายเงินให้ตนเดือนละ 3 หมื่น หรือหากจะหย่ากันก็จ่ายมา 6 ล้าน จะยอมหย่าให้

เมียหลวง โหนกระแส

ต่อมาสามีพูดว่า คุณน้ำไม่ยอมรับข้อเสนอทั้งหมด

ให้สามีกลับมาอยู่กับครูหนิงเหมือนเดิม สามีบอกว่าไม่มีอะไรกับเขาแล้ว เลิกยุ่งเกี่ยวกัน แต่ครูหนิงแอบบุกไปบ้านสามีที่ จังหวัดนครราชสีมา ไม่ให้รู้ตัว เพื่อพิสูจน์ความจริง เจอว่าในห้องนอนถูกทาสีใหม่หมด มีโต๊ะเครื่องแป้งใหม่ เครื่องสำอางผู้หญิงเต็มไปหมด เจอชุดชั้นใน เสื้อผ้าผู้หญิงอื่น ก็เลยหอบเอาเสื้อผ้าพวกนั้นออกไปเขวี้ยงทิ้งหน้าบ้าน แม่สามียังบอกว่าตนไปทำกริยาไม่เหมาะสม ตนก็ตอบโต้ว่า แล้วการที่แม่สามีปล่อยให้ผู้หญิงอื่นเข้ามาอยู่ในฐานะชู้ มันเหมาะสมไหม

ครูหนิงยังได้โทร คุยกับหญิงที่ชื่อน้ำ ถามคำถามว่าเขามาทำแบบนี้ได้อย่างไร อีกฝ่ายก็ยังโต้เถียงมาแบบไม่เกรงกลัว พูดว่าสามีของตัวเองเก่งเรื่องบนเตียง กินดี กินอร่อย ครูหนิงจึงพูดว่า ถ้างั้นก็จ่ายมา 6 ล้าน เพราะว่าของอร่อยจะต้องราคาแพงเป็นธรรมดา ต่อมาคุณครูหนิงยังไปร้องเรียนกับ ผู้บังคับบัญชากองบิน 1 ให้เอาผิดกับสามี และเจอว่าที่ห้องนอนของตนที่กรุงเทพ ถูกติดกล้องจิ๋วแอบถ่ายในห้องนอน

หลังร้องเรียนไปแล้ว ทางรองผู้บังคับการกองบิน 1 ซึ่งเป็นผู้รับเรื่องไว้ ได้ติดต่อขอให้ตนกลับไปเจรจาไกล่เกลี่ย โดยมีสามีมานั่งในห้องด้วย มีการทำใบบันทึก
ข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร บอกให้สามีมาหาตนที่ กรุงเทพฯ เดือนละ 2 ครั้ง ให้วิดีโอคอลมาก่อนนอน แสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ทำให้สงสัยในเรื่องชู้สาวกับหญิงอื่น เขียนไว้ 7 ข้อ ผู้บังคับบัญชาเขาอ่านทีละข้อ ทีละข้อ มีการเซ็นตกลงกัน แต่หลังจากจากลงข้อบันทึก ไม่เคยทำอะไรตามที่เขียนสักอย่าง

เมียหลวง จ่ายตังมา

เมียหลวง สืบหาตัวตน เมียน้อยในโลกออนไลน์แต่ไม่เจอ

โดยหญิงที่ชื่อน้ำนี้ คุณครูหนิงเคยไปสืบหาตัวตน ไม่เจอข้อมูลในโลกออนไลน์เลย ทราบเพียงว่าเขามีเงินมากมาย เพราะว่าสามีกับแม่สามีเคยกล่าวถึงบ่อยๆว่า คนชื่อน้ำมีสามีเป็นฝรั่ง ตนก็ยังสงสัยว่าแล้วสามีไปแอบรักเขาได้อย่างไร ตอนนี้อยากที่จะให้สามีถูกลงโทษตามวินัย อย่างการคบชู้มีโทษถึงให้ออกจากราชการ

ซึ่งก็อยากให้รับโทษตามนั้น ส่วนจะหย่าหรือไม่ก็ขอพิจารณาก่อน เพราะไม่อยากให้ฝ่ายชายได้ไปเสพย์สุขง่ายๆคนอย่างเขาจะต้องเจอคนอย่างเรา หากไม่ยอมจ่ายเงิน 6 ล้าน ก็จะไม่ยอมหย่า ตนก็จะไม่ยอมปล่อยเขาไปมีความสุข หรือแต่งชุดทหารหล่อๆไปหลอกผู้หญิงคนอื่นๆอีก

เมียหลวง กล่าว

อย่างไรก็ตามฝ่ายชายได้อ้างว่า ไม่ได้มีชู้ ภรรยาเข้าใจผิด คุณน้ำเคยว่าจ้างให้พี่สาวตนซักผ้าให้ พี่สาวก็ได้นำเสื้อผ้าของคุณน้ำมาห้อยไว้ที่ห้องของตนเอง ภรรยาไม่เคยมานอน ตนก็ไม่ได้มานอน เพราะตนนอนในบ้านพักทหารในค่าย กระทั่งภรรยามาเจอแล้วเข้าใจผิด แล้วยังเอากรรไกรมาตัดทำลายเสื้อผ้าของคุณน้ำ

ซึ่งเป็นลูกค้าของพี่สาว ภายหลังเกิดเรื่องภรรยายังมาด่าแม่ตน ด่าแม่ตนว่าเป็นผู้หญิงขายตัว ใครจะรับได้ ในเรื่องนี้ตนสามารถฟ้องหย่าได้ แม่และพี่สาวตนก็เป็นพยานได้ ส่วนที่มีคลิปเสียงว่าตนยอมรับสารภาพว่ามีอะไรกับคุณน้ำ จริงๆเป็นการโกหกลองใจภรรยาเฉยๆ ขณะที่ทนายแก้ว มนต์ชัยจงไกรรัตนกุล เผยว่า จากกรณีนี้ ครูหนิงมีหลักฐานต่างๆชัดเจน สามารถฟ้องหย่า แบ่งทรัพย์สินสมรสกับสามีได้ รวมทั้งสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายจากหญิงชู้ได้ด้วย

คุณน้ำเมียหลวง
เมียหลวง จับโป๊ะผัวทหารคบชู้ อึ้ง เจอเมียน้อยสายบุญหลุดแซ่บ ลั่นก็อยากกินสามีพี่

จากกรณีภรรยาข้าราชการ ทบ. สังกัด กองบิน 1 จังหวัดโคราช ออกมาร้องเรียนถึงพฤติกรรมของสามีที่แอบคบชู้ หลังเจอชุดชั้นใน และเสื้อผ้าผู้หญิงคนอื่นซุกในห้องนอน ช้ำใจสามีให้ชู้โทร มาด่าทอเสียหาย ร้องเรียนหน่วยงานต้นสังกัดแล้วไม่เป็นผลนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 19 เดือนมกราคม 2566 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 เปิดใจ คุณหนิง รองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง เล่าว่า เมื่อ 4 ปีก่อนเธอแต่งงานกับสามี

โดยจดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมาย เธอรับราชการอยู่ กรุงเทพมหานคร ส่วนสามีรับราชการทหารอยู่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเธอกับสามีก็จะเดินทางระหว่าง 2 จังหวัดไปแบบนี้เกิดเรื่องปกติ ข้างสามีเป็นคนเฟรนลี่ สวย ชอบแซวสาวๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ค้า เป็นคนมีเสน่ห์ อัธยาศัยดี เป็นที่รักใครของคนที่ได้รู้จักเสมอ โดยไม่มีพฤติกรรมนอกใจเธอเลย แต่พอมาตอนพฤศจิกายน 2565 เธอเริ่มรู้สึกสงสัยแปลกๆที่สามีโทร. มาบอกว่า ไปรับจ้างทำงานให้คนชื่อน้ำ

ซึ่งเป็นเจ้าภาพงานกฐิน ตอนนั้นก็ยัง ไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ต่อมาวันที่ 19 พ.ย. สามีโทร มาสารภาพว่า ถ้าพูดไปแล้วเธอ จะเสียใจหรือเปล่า แต่ต้องการพูดว่าเขามีหญิงคนอื่นๆแล้วนะ ชื่อน้ำ ตอนนั้นช็อก มือสั่น โกรธ ทำอะไรไม่ถูก เพราะคนชื่อน้ำคือคนที่รู้จักกับแม่สามี ครั้งหนึ่งเธอยังให้แมวกับหญิงคนนี้ไปเลี้ยงหนึ่งตัวโดยไม่ได้คิดอะไร และก็ไม่รู้ว่าสามีไปสนิทสนมกับอีกฝ่ายตอนไหน เพราะที่ผ่านมาเธอก็เจอกับสามีอยู่ตลอดทุกเดือน

ต่อมาวันที่ 26 พ.ย. สามีได้โทร มาสารภาพว่ามีอะไรกันกับผู้หญิงคนดังกล่าวจริง ยอมรับว่ารู้สึกรักอีกฝ่าย เพราะว่าเขาทำดีกับครอบครัวของตัวเองทุกคน ยอมรับว่าไม่สามารถเลิกกับน้ำได้ แต่ว่าก็เลิกกับเมียไม่ได้เช่นเดียวกันเพราะว่ายังรักอยู่ เธอยืนยันว่าไม่ยอม ถ้าสามีจะไปคบคนอื่นจริง จะต้องส่งเสียเธอเดือนละ 30,000 บาท หรือถ้าเกิดต้องการได้ใบหย่าก็จะต้องจ่ายมา 6 ล้านบาท ทำให้ต่อมาสามีกลับคำบอกว่าเขาไม่ได้มีอะไรกับหญิงคนดังกล่าว

เมียหลวงคุณน้ำ
คุณหนิง บอกว่า

ผู้หญิงคนดังกล่าว เป็นเจ้าของธุรกิจหลายอย่างใน จังหวัดนครราชสีมา โดยเป็นผู้หญิงสายบุญและสายเปย์ โดยเขามีความสนิทสนมกับแม่ของสามี เป็นคนชอบทำบุญเช่นกัน และพี่สาวของสามีก็ไปทำงานอยู่ร้านนวดของผู้หญิงคนนี้ ซึ่งทำให้เธอคิดว่าครอบครัวของสามีต้องชอบใจผู้หญิงคนนี้แน่นอน และเปิดโอกาสให้เขาคบกันโดยไม่บอกเธอ แล้วต่อจากนั้นเมื่อวันที่ 28 เดือนพฤศจิกายน เธอเดินทางไปบ้านของสามีที่ จังหวัดนครราชสีมา พอไปถึงบ้าน พบว่า

ห้องนอนของสามี เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอนใหม่ทั้งหมด ตู้ใส่เสื้อผ้าใหม่ เตียงใหม่ ที่นอนใหม่ หมอนหนุนใหม่ ผนังทาสีใหม่ เป็นแนวลอฟต์ ที่น่าตกใจคือ เจอเสื้อผ้าผู้หญิง และชุดชั้นใน โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเครื่องสำอางเต็มโต๊ะไปหมด ตอนนั้นโมโหปรี๊ดแตกมาก ก็เลยเอามีดตัดเสื้อผ้า และชุดชั้นในของผู้หญิงออกเป็นชิ้นๆพร้อมโยนเสื้อผ้าผู้หญิงทั้งหมดออกมาจากนอกบ้าน ต่อไปเธอเองได้ขับรถกลับบ้านที่กรุงเทพฯ

ปรากฏว่า ต่อจากนั้นสามีโทร กลับมาหาเธอ ปลายสายยังมีเสียงหญิงพูดสอดเข้ามา และด่าทอเธอเสียๆหายๆด่าเธอว่าเดรัจฉาน ทำให้เธอทนไม่ไหวด่ากลับทำนองว่าเห็นว่าชอบทำบุญ แต่ศีล 5 ยังรักษาไม่ได้ มาแย่งสามีชาวบ้านเขาแบบนี้ อีกฝ่ายยอมรับว่าจะทำไงได้ มีอะไรกันไปแล้ว และก็ยอมรับด้วยว่าก็หนูต้องการกินสามีพี่ เมื่อวันที่ 6 เดือนธันวาคม เธอทำหนังสือร้องเรียนถึงผู้บังคับบัญชาของสามี ที่กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา พร้อมหลังฐานคลิปเสียง คลิปภาพ และการสนทนาทางไลน์

โดยมีผู้ใหญ่ลงมารับเรื่องด้วยตนเอง จากนั้นวันที่ 26 เดือนธันวาคม ต้นสังกัดของสามี นัดเธอไปกล่าวคุยพร้อมด้วยสามี แต่ว่าพอไปถึงผู้บังคับบัญชาของสามีและผู้ใหญ่ในสังกัดของสามีพยายามร้องขอให้เธอให้ ให้โอกาสสามีได้กลับเนื้อกลับใจเป็นคนดี ก่อนจะให้ทำข้อตกลงทั้งสองฝ่าย แต่ว่าจนถึงตอนนี้สามีก็ไม่ทำตามสัญญา รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงต้องการเรียกร้องให้ต้นสังกัดลงทัณฑ์สามีให้ถึงที่สุด เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

ดิว อริสรา ลงโพสต์
ดิว อริสรา โผล่ตอบแบบนี้ หลังเพจดังเปิดอีกมุมคดีพลิก ลั่นอย่าเพิ่งอวยยศ

จากกรณีที่ “ดิว อริสรา” ออกมาเปิดเผยปล่อยเบาะแสเด็ดฝากตำรวจจัดการที กับเว็บพนันชื่อใหญ่ มาเก๊า888 บอกใบ้มีพี่น้อง 4 คน ผู้ชายหมด ชื่อเล่น บ. ทั้งบ้าน น้องชื่อ บิ๊ก พึ่งหมั้นวันนี้ กำลังจะแต่งงานวันที่ 22 มกราคม ที่จะถึงนี้ อัปเดตปัจจุบันฝ่ายถูกเปิดเผยปิดเว็บชั่วคราว ปิดไอจี เฟซบุ๊ก รูปในงานหายเกลี้ยง แล้วก็คนไม่ใช่น้อยก็ได้โยงไปที่อดีตแฟนหนุ่มของสาวดิว

อย่าพึ่งอวย

ล่าสุดมีเพจเฟซบุ๊กหนึ่งโพสต์ว่า

‘มึงอย่าเพิ่งอวยยศว่ามันเป็นกระบอกเสียงให้ ปชช. มันแค่ทะเลาะกับผัวเก่า แค่นั้น’ โพสต์นี้เองสาวดิวได้เห็นแล้ว และตอบคอมเมนต์ชาวเน็ตรายหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นบอกว่า “จะพลิกได้ไง ถึงจะทะเลาะกันจริง แต่เปิดเว็บพนันก็ยังจริงกว่าอยู่ดี” สาวดิวตอบชัด ๆ ได้ใจความว่า “ใช่ค่า” ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่มีการจัดการอย่างไรต่อไป ต้องรอติดตามกัน

ดิวโพสต์

ม้วนเดียวจบ! สรุปแฮชแท็ก ดิว อริสรา เปิดเผยเบาะแส ครอบครัวเว็บพนันดัง

กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกอินเตอร์เน็ต หลังจากดาราสาวมีชื่อเสียง “ดิว” ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Due Arisara” แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับครอบครัวเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่ ที่กำลังจะจัดงานแต่งงานใหญ่โต คาดจะมีคนวงการเว็บพนันมาร่วมงานพร้อมหน้าพร้อมตา หลังจากทำเว็บพนัน

พร้อมแนะให้ตำรวจช่วยวิเคราะห์ ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าว สาวดิวก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในหัวข้อที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในขณะนี้

วันนี้ทีมข่าวจะพาทุกคนไปเกาะติดสรุปเรื่องราวหลักสำคัญร้อนข้างต้น ที่กำลังถูกพูดถึงแบบม้วนเดียวจบ กับสรุปแฮชแท็ก #ดิวอริสรา จะเป็นอย่างไรบ้างตามไปฟังพร้อมเพียงกัน

เมื่อคืนวันที่ 15 มกราคม เฟซบุ๊ก“Due Arisara” โพสต์เดือดชี้เป้าว่า ครอบครัวหนึ่งทำเว็บพนันใหญ่ชื่อ มาเก๊า888 มีพี่น้อง 4 คน เป็นผู้ชายล้วน ชื่อเล่น บ.ทั้งบ้าน น้องชายเพิ่งหมั้นวันนี้และกำลังจะแต่งงาน 22 ม.ค.นี้ คาดว่าจะมีคนในวงการเว็บพนันไปร่วมงานแต่งถ้วนหน้า ฝากตำรวจทำงานด้วย แถมสาวดิวยังทิ้งท้ายว่า ไม่ผิดที่มีความรักและแต่งงาน แต่ผิดที่ทำธุรกิจสกปรกผิดกฎหมาย แล้วกล้าจัดงานใหญ่โตโชว์ความรวยที่ได้มาจากการหลอกเงินคนไทย

ดิว อริสรา แฟนเก่า

อ่านข่าวเอ๊ะยังไง! ดิว อริสรา โพสต์แจ้งเบาะแสแก๊งเว็บพนันจ่อร่วมงานวิวาห์เจ้าของ ‘มาเก๊า888’

หลังจากโพสต์ดังกล่าวชาวเน็ตพุ่งเป้าไปที่ บ. อดีตคนรักของสาวดิว ซึ่งหลายอย่างตรงกับรายละเอียดที่ดิวโพสต์ ทั้งยังชื่อเล่น บ. มีพี่น้อง 4 คนชายล้วน และก็น้องชายเพิ่งจัดงานหมั้นหมายวันนั้นพอดี แถมมีเพื่อนของดิวไปร่วมงานอีกด้วย

สำหรับหนุ่ม บ. ทำธุรกิจหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ผับ ร้านอาหาร เป็นเจ้าของรถซูเปอร์คาร์หลายรุ่น รวมทั้งเป็นนักแข่งรถ เคยคบดูใจกับสาวดิวช่วงปี 2562-2563 ช่วงนั้นความรักทั้งคู่แฮปปี้จนถึงเกิดแฮชแท็ก ……. ที่ย่อมาจาก “คนดีของใจ”

หลังแล้วต่อจากนั้นปีกว่า ก็มีข่าวเลิกรากัน พร้อมด้วยดิวได้เปิดตัวแฟนใหม่ นั่นก็คือ เซบาสเตียน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวไต้หวัน ในขณะนั้น หลังจากดิวเปิดตัวแฟนใหม่ บ. ก็โพสต์เป็นนัยว่า “ไว้พบกันใหม่ในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ทนอยู่กับสิ่งที่ทำร้าย”

ทำให้คนสงสัยว่าทั้งคู่อาจจบไม่สวย โพสต์ของดิวกลายเป็นไวรัลไวรัล กระทั่งพี่น้องบ.ได้ปิดโซเชียลทันทีหลังเกิดเรื่อง ด้านเจ้าสาวก็ปิดไอจีด้วยเช่นกัน เพื่อน ๆ ที่ไปร่วมงานแต่งงานรวมไปถึง ออแกไนซ์พากันลบรูปงานหมั้น บางคนตั้งไอจีเป็นไพรเวท หลังแล้วหลังจากนั้นไม่นานด้าน “หนุ่ม กรรชัย” ได้พูดว่างานแต่งถูกเลื่อนออกไปเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ด้านโฆษกตำรวจออกมายอมรับว่า เรื่องเว็บพนันเจ้านี้ตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้วและอยู่ระหว่างตรวจสอบขยายผลเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม แต่ยังไม่ยืนยันว่าเกี่ยวเนื่องกับคนที่ดิวชี้เป้าหรือไม่

ย้อนสัมพันธ์ ดิวอริสรา – เบนซ์ เดม่อน จากรักหวานก่อนจบไม่สวย ล่าสุดมีข่าวใหญ่หูผึ่ง ย้อนสัมพันธ์ ดิว เบนซ์ เดม่อน จากคนดีของใจ รุ่นพี่ที่รู้จัก เลื่อนสถานะเป็นคนรัก ไม่มีรูปคู่แต่อยู่ด้วยกัน สุดท้ายจบไม่สวย ดิวเปิดตัวคบเซบาสเตียน ส่วนเบนซ์โพสต์ มีแต่คนโง่ที่อยู่กับสิ่งที่ทำร้ายตัวเอง

เป็นข่าวใหญ่หูผึ่งกันจริงจัง เมื่อสาวดิว อริสราออกมาโพสต์แฉเว็บพนันมีชื่อ ว่า
คนที่อยู่เบื้องหลังเว็บนั้นกำลังจะจัดงานแต่งงาน แล้วก็งานนี้จะเป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ของวงการเว็บพนัน จนกระทั่งมีคนไปขุดประวัติกันมาก พร้อมด้วยโยงไปถึงเบนซ์ เดม่อน อดีตคนรักของดิวก่อนที่ดิวจะมาเจอกับ เซบาสเตียน ลี

ดังนี้ ดิวอริสราได้เริ่มเปิดเผยเรื่องราวความรักของดิวและเบนซ์ เดม่อน ผ่านทางไอจี ซึ่งเวลาที่ดิวไปถ่ายภาพ ก็ชอบติดแฮชแท็ก #kdkj ที่ย่อมาจาก คนดีของใจ กระทั่งผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเฝ้ามอง ถึงกระนั้นภาพคู่ของดิวและเบนซ์ ก็มีแค่รูปเบนซ์มองเห็นหน้าครึ่งเดียว ไม่มีภาพคู่หวือหวาออกมา จะมีก็แค่ภาพเดี่ยวไปคอนเสิร์ต ที่ดูก็รู้ว่าไปด้วยกัน

เบนซ์

ดิว อริสรา ยอมรับ เบนซ์ เดม่อน เป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่ไฮโซ คบหากันเป็นปี จากรุ่นพี่สู่คนรู้ใจ

ด้านหลายท่านได้เข้าไปตามสืบ และพบว่า เบนซ์ เดม่อน ทำงานเป็นนักธุรกิจ มีรถหรูฟู่ฟ่า แต่งตัวด้วยแบรนด์เนม รวมทั้งเมื่อดิวได้ไปออกงานอีเวนต์ ก็ได้ยอมรับว่า เบนซ์เป็นนักธุรกิจ นักถ่ายภาพ แต่ไม่ใช่ไฮโซ ดิวคบหากับเบนซ์ในเป็นปี จากการที่เบนซ์เคยเป็นรุ่นพี่ จนกระทั่งถึงตอนนี้ไม่ใช่ เวลาไปไหนเขาก็จะชอบถ่ายภาพให้ดิว

ส่วนดิวก็ชอบถูกถ่ายภาพ รูปใส่บิกินี่ชุดที่มีไว้ใส่ว่ายน้ำเขาก็ช่วยสแกนให้ ถ้าเกิดเขาไม่ให้ผ่านก็ไม่ลง ส่วนเรื่องรูปคู่เห็นหน้าเบนซ์ชัด ๆ ก็แล้วแต่โอกาสจะได้ลง เพื่อน ๆ เองก็รับทราบการมีอยู่ของเบนซ์ ทุกคนแฮปปี้ที่ดิวแฮปปี้

ยิ่งกว่านั้น ดิวยังเคยยอมรับว่า มีความรักก็คาดหวัง ความรักกับเบนซ์ก็มองกันมากกว่าวันนี้ แต่บางทีอาจจะ ไม่ถึงขนาดแต่งงาน คุยกันตลอดว่าไม่ได้คบกันเอาแค่วันนี้ เวลานี้ดิวอายุ 30 ปี คนที่เข้ามาก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ใช่คบกันเพื่อเลิกอยู่แล้ว

เพจโพสต์

ดิว เลิกกับเบนซ์ เดม่อน ไปคบ เซบาสเตียน เลิกรากันไม่ดี ทิ้งแคปชั่นไอจีไว้อย่างจี๊ด

กระทั่งกระทั่งสุดท้าย มีข่าวว่าดิว อริสราเลิกรากับเบนซ์ เดม่อน เพราะเหตุว่าต่างคนต่างอันฟอลโลไอจีซึ่งกันและกัน และต่อจากนั้น ก็มีภาพของดิว ที่ถ่ายภาพคู่กับ เซบาสเตียน ลี สามีคนปัจจุบัน แล้วก็ภาพที่ดิวรวมทั้งเซบาสเตียน ส่งพวงหรีดไปงานศพงานหนึ่ง โดยใช้ชื่อคู่กัน หรือภาพที่ทั้งดิวและก็เซบาสเตียนไปดินเนอร์

นอกจากนั้น ยังมีคนที่จับสังเกตได้ว่า ความสัมพันธ์ของดิว และเบนซ์ น่าจะสิ้นสุดกันตั้งแต่ที่ดิวพูดว่าไอจีโดนแฮก แล้วรูปหายหมด รวมไปถึงแฮชแท็ก #kdkj ก็หายไปด้วย ซึ่งมีคนบอกว่า ดิวนอนที่โรงพยาบาล แต่เบนซ์ไปเที่ยว เลยอาจเป็นเหตุให้เลิกราแล้วก็ลบรูปออกไป แต่ตอบนักข่าวว่า โดนแฮกไอจี

เท่านั้นยังไม่พอ เบนซ์ เดม่อน ยังโพสต์ข้อความส่งท้ายให้กับความรักในครั้งนี้ว่า “ไว้พบกันใหม่ในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละ ที่ทนอยู่กับสิ่งที่ทำร้ายตัวเอง”

ชาร์จมือถือ หลอกลวง
เช็ค 8 จุด "ชาร์จมือถือ" เสี่ยง โดนแฮก ดูดเงินในบัญชี พร้อมวิธีแก้

ชาร์จมือถือ กลโกงของมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต่างปรับรูปแบบใหม่ ในการเข้าถึงข้อมูลของเหยื่อ โดยล่าสุด มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรายหนึ่ง ตกเป็นเหยื่อ เพราะเพียงแค่ชาร์จมือถือวางทิ้งเอาไว้ แต่จู่ๆเครื่องดับ เมื่อเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาอีกรอบ กลับมีข้อความจากแอปธนาคารแจ้งว่า มีเงินออกไปจำนวนกว่า 1 แสนบาท ทั้งๆที่ไม่มีการโทรเข้า-โทรออก และ ไม่มีใครส่งลิงก์ให้ยืนยันข้อมูล

ผู้เสียหาย เล่าว่า ปกติเค้ามีโทรศัพท์ 2 เครื่อง คือ เครื่องแอนดรอย ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้เล่นเกมส์อย่างเดียว ส่วนเครื่องหลัก คือ ไอโฟน ซึ่งเป็นเครื่องที่ชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้ แล้วโดนแฮก จนกระทั่งดูดเงินหาย ณัฐ พยงค์ศรี นักวิชาการด้านคอมพิวเตอร์ชำนาญการ ให้ข้อมูลว่า

ชาร์จมือถือ ระวัง

ชาร์จมือถือ จากที่ดูจากคลิป มีส่วนที่โดนแอปรีโมทเข้ามาที่เครื่อง

ทำให้หน้าจอค้าง เพื่อทำให้เหยื่อใช้งานไม่ได้ ในขณะที่หลังบ้านของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กำลังดูดข้อมูลจากเครื่องของเหยื่อ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะควบคุม เพราะว่าส่วนมากผู้เสียหายจะไม่รู้ตัว แต่มีคำแนะนำ ถ้าพบว่าเครื่องหน่วงผิดปกติ อย่าพึ่งใช้แอปธนาคาร เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน

2 กลโกงมิจฉาชีพ แฮกข้อมูล

ขณะที่เพจ Drama-Addict เตือน 2 จุดเสี่ยง ถูกแฮกข้อมูลในขณะนี้ คือ สายชาร์จมือถือ ไอโฟน ที่ทีมแฮคเกอร์ดัดแปลงข้างใน ให้สามารถดูดข้อมูลจากเครื่องเหยื่อได้ สมมุตว่า มีคนใช้สายนี้เสียบชาร์จ ก็จะสามารถดูดข้อมูลในเครื่องนั้นได้ โดยตัวสายมันจะมีอุปกรณ์ในการดักจับข้อมูล

ถ้าหากเหยื่อพิมพ์ข้อมูล รหัสผ่าน อะไรประมาณนี้ มันก็จะถูกส่งข้อมูลผ่านระบบไร้สาย ไปเข้าคอมพิวเตอร์ของมิจฉาชีพได้ ซึ่งปัจจุบันมีแบบใหม่ๆออกมาขายหลายชนิด มีแบบ usb-c ด้วย และวิธีการก็แนบเนียนขึ้น เพราะฉะนั้น ฝากพ่อแม่พี่น้อง ตอนนี้มิจฉาชีพมาทุกรูปแบบ และสายชาร์จของมิจฉาชีพ ก็มีขายทั่วไปในท้องตลาด หน้าตาภายนอกแยกจากสายชาร์จไม่ออก ดังนั้น เวลาจะชาร์จมือถือใช้สายใครสายมัน อย่ายืมสายคนแปลกหน้ามาใช้

อีกวิธีที่ คือ wifi ปลอม วิธีแบบนี้ มิจฉาชีพจะไปตั้งจุด hotspot wifi ให้ชื่อคล้ายกับพวก wifi สาธารณะที่ให้ใช้ฟรี และต่อเน็ทได้ แต่ถ้าเกิดพวกเราหลงเชื่อไปใช้งาน wifi ปลอมพวกนี้ แล้วกรอกรหัสอะไรไป ข้อมูลก็จะถูกดักไว้โดยมิจฉาชีพ ถูกลักขโมยข้อมูลแบบไม่รู้ตัวกันเลยทีเดียว ดังนั้น ถ้าจะใช้งาน wifi สาธารณะ เช็คกันดีๆว่า เป็นของจริงหรือของปลอม พลาดไปก็หมดตัวได้เลย

ชาร์จมือถือ ที่อื่น

8 สถานที่ควรจะระวังการ ชาร์จมือถือ

1. จุดชาร์จที่สนามบิน หรือบนเครื่องบิน
ไม่ควรนำเพียงแค่สาย USB มาเสียบที่พอร์ต USB ชาร์จมือถือ เพราะโดนล้วงข้อมูลได้ง่าย เพื่อความปลอดภัยควรจะนำ Adapter ของมือถือมาด้วย และเสียบผ่าน Adapter มือถือเข้ากับสาย USB มือถือก่อนชาร์จ เพื่อทำให้มั่นใจว่าใช้สำหรับชาร์จเท่านั้น ไม่โหลดข้อมูลมือถือ

2. รถไฟ
มีพอร์ตแบบ USB ให้บริการชาร์จ แต่เสียบแล้วมีโอกาสข้อมูลรั่วไหลเช่นกัน และไม่มีปลั๊กไฟทั่วไปสำหรับใช้ Adapter ให้เสียบด้วย เพราะฉะนั้นเพื่อความปลอดภัย เตรียมแบตเตอรี่สำรอง หรือ พาวเวอร์แบงค์ ส่วนตัวในการชาร์จแบตด้วย

3. โรงแรม
มีพอร์ต USB ในการชาร์จแบต และมีรูปลั๊กไฟให้บริการ แต่แนะนำเสียบกับรูปลั๊กไฟปลอดภัยกว่า

4. รถเช่า
หลายท่านท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือต่างจังหวัด และใช้บริการรถเช่า ก็ไม่ควรจะนำมือถือมาชาร์จกับรถเช่า เพราะมีโอกาสถูกลักขโมยข้อมูลได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนำมือถือมาเสียบกับ USB เพื่อฟังเพลงจากรายชื่อเพลงในมือถือ เสี่ยงถูกขโมยข้อมูลได้ หรือจะชาร์จด้วย adapter ชาร์จแบตมือถือของรถยนต์ จะปลอดภัยกว่า

5. จุดชาร์จตามสถานที่ท่องเที่ยว
นอกจากอันตรายต่อข้อมูลในมือถือแล้ว อาจเป็นอันตรายต่อตัวคุณด้วย หากมีมิจฉาชีพมาเข้าใกล้เพื่อขโมยมือถือ ซึ่งรู้ได้ถ้าคุณชาร์จมือถือ ณ จุดบริการชาร์จไฟฟรี

6. จุดชาร์จไฟตามห้ามสรรพสินค้า
ถ้าเกิดคุณชาร์จด้วยสายชาร์จ USB เสียบกับพอร์ต USB ก็มีโอกาสที่จะถูกลักขโมยรายชื่อผู้ติดต่อของคุณ, อีเมล ข้อความ,เสียงรูปภาพและวิดีโอ ที่อยู่ในมือถือได้ โดยเป้าหมายของแฮกเกอร์คือ ข้อมูลการเงิน หรือรหัสของแอปธนาคารออนไลน์

7. ห้องสมุด
อาจดูราวกับเป็นพื้นปลอดภัย แต่ควรหลีกเลี่ยงการเสียบอุปกรณ์มือถือ เข้ากับพอร์ต USB เพราะว่าถ้าเสียบพอร์ต USB มีความเสี่ยงที่จะเกิดการถูกถ่ายโอนข้อมูลได้เช่นเดียวกัน

8. ร้านกาแฟ
เป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่อาจจะเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลเช่นกัน ควรระวังการชาร์จผ่านพอร์ต USB เพื่อความปลอดภัยก็ควรนำ Adapter ติดตัวไปด้วย สำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือจะเป็นการดีที่สุด

ทั้งนี้ทั้งนั้น มีคำแนะนำว่า ถ้าไม่มี Adapter ชาร์จแบต ในการชาร์จสมาร์ทโฟน และจำเป็นต้องต้องเสียบสาย USB เพื่อชาร์แบตเตอรี่ในสถานที่เสี่ยง เพื่อความปลอดภัย ให้ปิดเครื่องมือถือให้สนิท ก่อนเสียบสาย USB จะเป็นการชาร์จผ่านกระแสไฟฟ้า โดยไม่มีการโหลดข้อมูลในมือถือ

การชาจไฟ

หัวปลั๊ก
ตร.สอบสวนกลางเตือนภัย! เสียบสายชาร์จไม่ระวัง เสี่ยงถูกแฮกข้อมูล

เพจตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โพสต์แจ้งเตือนภัยเสียบสายชาร์จไม่ระวัง เสี่ยงถูกแฮกข้อมูลไม่รู้ตัวกล่าวว่า ปัจจุบันพบว่ามีสายชาร์จที่ฝังตัวส่งสัญญาณไร้สาย Access Point ที่เมื่อเราเสียบสายชาร์จเข้ากับอุปกรณ์ หรือโทรศัพท์มือถือของเราแล้ว อาจจะทำให้เหล่าแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลในอุปกรณ์ของพวกเราได้จากระยะทางไกล โดยเเฮกเกอร์จะสามารถโจรกรรมข้อมูลต่างๆไม่ว่าจะเป็น เลขบัญชีธนาคาร, รหัสธนาคาร, รหัส หรืออาจจะถูกส่ง Malware อันตรายเข้ามายังอุปกรณ์

ซึ่งรูปร่างหน้าตาของสายชาร์จดังกล่าว จะมีหน้าตาคล้ายกับสายชาร์จทั่วไป มีทั้งสายชาร์จแบบ Lightning, Micro-USB หรือ USB-C ก็เลยอาจทำให้หลายคนไม่ทันระวัง เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการถูกแฮกข้อมูล ควรระมัดระวังการใช้สายชาร์จของคนเเปลกหน้า หรือ การเสียบสายชาร์แบตเตอรี่จากพอร์ทรูปแบบต่างๆตามสถานที่สาธารณะ อย่างเช่น ห้าง, โรงแรม, สถานีโดยสารต่างๆ

จิ๊บ คีตภัทร โพสต์
"จิ๊บ คีตภัทร" ขอเคลียร์ ปมคลิปฉาว ยันไม่ใช่ตัวเอง ฟ้องแน่ ทำเสียหาย

นักแสดงสาวยุค 90 “จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์” โพสต์ IG ชี้แจงเรื่องข่าวหลุด ที่หลายคนเดาว่าเป็นตัวเอง ยืนยันไม่ใช่ ด้วยเหตุว่ามาหาครอบครัว ที่สหรัฐอเมริกา ลั่นดำเนินดคีแน่ๆ ฐานทำให้ตนเกิดความเสียหาย ยันไม่ใช่ นางเอก จ. ถูกปล่อยคลิปลับ เจอเรียกเงิน 4 แสน จ่อเอาผิด คนกุข่าวมั่ว ทำเสียหาย เพื่อรักษาสิทธิ และความถูกต้องให้ถึงที่สุด

จิ๊บ คีตภัทร ข่าว

เป็นประเด็นร้อน สั่นสะเทือนวงการบันเทิง

หลังจากที่ผู้ใช้แอปพลิเคชั่น TikTok รายหนึ่ง ได้ออกมาอ้าง เปิดเผยข้อความว่า “มีข่าวหลุด!! อดีตนางเอกดังช่องหลายสี แอบไปซื้อชายหนุ่มนอกวงการกิน แล้วโดนชายหนุ่มอัดคลิป แบล็กเมล์ เรียกเงิน 4 แสน ล่าสุดมีคลิปหลุดออกมา เร็ว ๆ นี้ เจ้าตัวเตรียมแถลงข่าวแน่นอน” ถัดมา ก็ได้โพสต์อีกว่า

“โดนแล้ว! อดีตนางเอกดัง ช่องหลายสี ชื่อย่อ จ. เข้าแจ้งความเอาผิดหนุ่มนอกวงการ หลังจากขายคลิปตนเอง ที่กำลังมีอะไรกัน ให้กลุ่มลับ กลุ่มหนึ่ง ในราคา 4 แสนบาท ซึ่งความยาวคลิปเต็ม 21 นาที มองเห็นหน้าตนเองชัดเจน เลยส่งผลให้เกิดความเสียหาย เจ้าตัวลั่น ไม่ยอมความ พร้อมเอาเรื่อง ให้ถึงที่สุด” จนก่อให้เกิด การคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา ว่าอดีตนางเอก จ. ช่องหลากสี นั้นเป็นผู้ใดกัน ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็มีชื่อของ “จิ๊บ – คีตภัทร อันติมานนท์” นักแสดงสาว ยุค 90 ผุดขึ้นมา ว่าใช่หรือไม่

ล่าสุด วันนี้ (13 มกราคม 2566) “จิ๊บ” ได้ออกมาแจกแจงประเด็น ที่ถูกโยง ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว

ยืนยันว่า ไม่ใช่คนในข่าวอย่างแน่นอน พร้อมจะฟ้องตามกฎหมาย กับคนที่ทำให้เจ้าตัว รวมทั้ง ครอบครัว ได้รับความเสียหาย โดยระบุว่า

“ขออนุญาตชี้แจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บแน่นอนค่ะ

จากข่าวที่มีการใช้ชื่อหรือเจตนาใช้ภาพจิ๊บซึ่งทำให้ เกิดความเข้าใจผิดและเสียหายต่อตัวจิ๊บ ครอบครัว และแฟนเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เป็นความจริง ไม่ได้เกิดเรื่องและไม่ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีใดๆ อย่างในข่าว จิ๊บมาหาครอบครัวที่อเมริกาเป็นเวลา 3 เดือนแล้วค่ะ

อยากขอให้ทุกคนใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวส่วนผู้ที่ทำให้จิ๊บและครอบครัวได้รับความเสียหาย จะขอดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อรักษาสิทธิ และความถูกต้องให้ถึงที่สุด ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งเข้ามานะคะ”

พร้อมเขียนแคปชั่นใต้โพสต์ด้วยว่า “ขออนุญาตชี้เเจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บเเน่นอนค่ะ”

โดยมีแฟนๆ ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น และก็ ส่งพลังใจ ให้สาวจิ๊บ อย่างล้นหลาม มากมาย

ทำเอาโลกอินเตอร์เน็ตร้อนแรงเป็นอย่างมาก หลังจากก่อนหน้านี้ มีข่าวโคมลอยแรง ว่ามีอดีตนางเอก จ. ช่องหลากสี ถูกขู่ ปล่อยคลิปลับ คลิปฉาว เรียกเงิน 4 แสนบาท ซึ่งผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยก็เดาไปเรื่อยๆ และก็ สุดท้ายผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมาพุ่งเป้า ที่อดีตนางเอกชื่อดัง จิ๊บ-คีตภัทร อันติมานนท์ ที่ถูกโยงว่า เป็นคนภายในคลิปฉาว ทำเอาเขาเสื่อมเสียชื่อเสียงขึ้นมาทันที

จิ๊บ คีตภัทร สวย

เปิดประวัติ “จิ๊บ คีตภัทร” สาวสวยฝีมือดี ที่คนอยากรู้จัก ให้มากขึ้น

ความคืบหน้าล่าสุด ในโลกออนไลน์ มีผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยถามไถ่มาจำนวนมาก ว่าสาวจิ๊บ ประวัติมีอะไรยังไงบ้าง บ้างก็บอกว่าสวยเด่น อยากทราบงานที่ผ่านมา จะได้ไปดูย้อนหลัง งานนี้เราเลยไม่พลาด มาอัพเดทให้แล้วจ้า…

คีตภัทร อันติมานนท์ ชื่อเล่น จิ๊บ เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 เป็นนักแสดงในสังกัดดาราวิดีโอและสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จิ๊บเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวอันติมานนท์ จิ๊บเป็นนักแสดงสาวชาวไทย ซึ่งเป็นน้องสาวของนักแสดงชายคือ จิม-เจจินตัย แวนดิว นั่นเอง…

โดยจิ๊บเริ่มเข้าสู่วงการสายบันเทิงไทยเป็นนักแสดงมีผลงานเรื่องแรกเช่น กว่าจะรู้เดียงสา แสดงคู่กับ วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เป็นที่รู้จักในบทบาท แว่นทิพย์ ซึ่งเป็นนางเอกในละครหลังข่าวเรื่องแรกเมื่อในปี 2543 และละครเรื่อง เจ้าสัวน้อย และผลงานที่แสดงคู่กับ วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ อีกหนึ่งเรื่องละครเรื่อง ลูกหลง ทำให้คีตภัทรเป็นนักแสดงที่รู้จักกันและมีชื่อเสียงในยุคนั้น ต่อมาจิ๊บรับงานละครหลายๆเรื่อง และเป็นการพลิกบทบาทเป็นนางร้ายและเป็นนักแสดงที่มีคุณภาพและมีความสามารถด้านการแสดงอีกคับคั่ง

สำหรับผลงานโดดเด่นของสาวจิ๊บนั้นมีมากมายหลายเรื่อง อาทิ กว่าจะรู้เดียงสา, กามเทพลวง, ลูกหลง, เบญจา คีตา ความรัก, รักล้นซอย, ยอดชายนายโข่ง, ทิวลิปทอง เป็นต้น

ผลงานเพลงประกอบละคร เพลง ดนตรีในหัวใจ เพลงประกอบละครเบญจา คีตา ความรักขับร้องร่วม เพลง เพื่อวันที่ดีกว่า เพลงประกอบละครเบญจา คีตา ความรักขับร้องร่วม

ในปัจจุบันนี้นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว ยังทำงานมีธุรกิจส่วนตัว รวมไปถึงเธอยังมีธุรกิจส่วนตัวควบคู่ไปด้วย และนอกจากนั้นเธอยังเป็นพาร์ทเนอร์ร้านอาหารไทยที่ชื่อ Noi Thai Cuisine Greenlake ที่ Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกา อีกด้วย

ดนตรีกรุงเทพ จัดงาน
กรุงเทพฯ เปิดนโยบายสนับสนุนพื้นที่สำหรับ “ดนตรีและศิลปะการแสดง” สร้างเมืองสร้างสรรค์สำหรับทุกคน

ดนตรีกรุงเทพ  หากว่า “อุตสาหกรรมดนตรี แล้วก็ ศิลปะการแสดง” จะหนึ่งใน 15 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย ที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ได้ให้คำนิยามไว้ แต่บุคลากร และก็ ผลงานสร้างสรรค์ประเภทนี้ ก็ยังขาดการผลักดันและสนับสนุนอย่างจริงจัง

แล้วก็ เจอปัญหา สำหรับการสร้างงานให้เป็นอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตอนการระบาดของโรคโควิด-19 ที่นับว่าเป็นขณะที่ท้าทาย สำหรับศิลปินในวงการดนตรี และก็ การแสดง เป็นอย่างมาก

ดนตรีกรุงเทพ กลาง

จังหวัดกรุงเทพ ได้เล็งเห็นความสำคัญ ดนตรีกรุงเทพ

ของงานสร้างสรรค์รูปแบบนี้ ก็เลยได้จัดพื้นที่สำหรับดนตรี และก็ ศิลปะการแสดง ให้กับประชาชนทั่วๆไปได้ร่วม โดยจัดงานแถลงข่าวแผนการด้านการผลักดันพื้นที่สำหรับดนตรี รวมทั้ง การแสดง ในจังหวัดกรุงเทพ ตอนวันที่ 10 ม.ค. พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา ในสวนสันติชัยปราการ

พร้อมด้วย วงเสวนาเรื่อง “ความท้าทาย และก็ นโยบายการขับเคลื่อนเมือง ด้วยงานสร้างสรรค์ด้านดนตรี รวมทั้ง ศิลปะการแสดง” แล้วก็ การแสดงของศิลปินมากความสามารถ ขับเคลื่อนเมืองด้วยงานสร้างสรรค์

“พื้นที่สาธารณะเป็นเหมือน “ปากของเมือง” เมืองที่ไม่มีพื้นที่สาธารณะเปิดให้คนในเมืองมาลองแสดงไอเดีย ก็เหมือนเมืองที่ถูกปิดปาก แต่ว่าถ้าเกิด เราเปิดสวน เปิดพื้นที่สาธารณะ ก็เหมือนเป็นการเปิดปากให้กับเมือง และก็ เมื่อเมืองเปิดพื้นที่สาธารณะให้เมืองได้แสดงแล้ว เรา จะเห็นจริงๆว่า เอกลักษณ์ของเมืองนี้คืออะไร แล้วความน่ารักของเมืองที่ซ่อนอยู่ มันคืออะไร”

ดนตรีกรุงเทพ ตาราง

พงศ์สิริ เหตระกูล หนึ่งในผู้แทนคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์กรุงเทพฯ กล่าว

ตุล ไวฑูรเกียรติ นักเล่นดนตรีมีชื่อเสียง และ ผู้แทนคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์กรุงเทพฯ สะท้อนว่า ดนตรี รวมทั้ง ศิลปะการแสดง คือ ทุกแง่มุมของชีวิต มันคือภาษา วัฒนธรรม แล้วก็ สามารถทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ด้วยเหมือนกัน

ด้านกฤษณ์ สงวนปิยะพันธ์ นักแสดงสตรีทโชว์ อีกหนึ่งผู้แทนคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์กรุงเทพฯ ก็ชี้ว่า ความท้าทายของการทำงานขับเคลื่อนเรื่องศิลปะในเมือง คือการเปลี่ยนวิธีคิดของคนในสังคม จากแนวคิดที่ว่า ศิลปะจะเกิดขึ้นได้ เมื่อบ้านเมืองไม่มีปัญหาเรื่องปากท้อง จะต้องเปลี่ยนแปลงให้ศิลปะ และก็ งานสร้างสรรค์ กลายเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการปัญหา ทำให้ศิลปะเข้าถึงประชาชนทุกคน

“มันไม่ใช่แค่เรื่องของรายได้ แล้วก็ เศรษฐกิจ แต่เป็นเรื่องของสภาพจิตใจ คือ สิ่งสำคัญ ถ้าจะกล่าวถึงแผนการสร้างสรรค์ มันต้องกล่าวกับเมืองในตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ใช่รอให้พื้นฐานดี แล้วศิลปะจะเกิด

ถ้าเช่นนั้น ศิลปิน ก็จะไม่มีทางได้ลืมตาอ้าปาก ด้วยเหตุนั้น ทำอย่างไรเรา ถึงจะส่งเสริมศิลปะ โดยที่ไม่ต้องคอยให้ทั้งหมดทุกอย่างมันดี แต่ให้ศิลปะเป็นส่วนหนึ่งของเมืองสร้างสรรค์ และ ช่วยขจัดปัญหาของเมืองดีกว่า” กฤษณ์ ระบุ

“สิ่งที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ส่งเสริมได้ เป็นเรื่องการทำให้มีการเกิด Soft Power ซึ่งคำนี้พูดกันมาก แต่สิ่งที่เป็นรูปธรรมเป็นอย่างไร สิ่งหนึ่งที่จ.กรุงเทพฯ สามารถปลดล็อก และ ทำให้เปิดกว้างให้กับประชาชนได้จริงๆ ก็คือ

พื้นที่สาธารณะ หรือ บางโซนที่พวกเรา มีความรู้สึกว่า สามารถเปิดให้นักดนตรีที่ยังไม่ใช่มืออาชีพ มาแสดงศักยภาพได้ ซึ่งจังหวัดกรุงเทพมหานคร ควรจะทำให้มีพื้นที่แบบนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วเศรษฐกิจสร้างสรรค์ถึงจะเกิดขึ้นได้จริง พวกเรา ถึงจะมีพื้นที่ มีบุคลากรเก่งๆด้านนี้ได้”

ดนตรีกรุงเทพ บอก

ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ชี้

จ.กรุงเทพฯ นำร่องพื้นที่ “โซนใช้เสียง”

เนื่องจาก ตั้งใจที่จะเปิดพื้นที่สาธารณะให้เป็นพื้นที่เอนกประสงค์รองรับกิจกรรมที่หลากหลาย กรุงเทพฯ จึงทดลองนำร่อง “โซนใช้เสียง” ในพื้นที่ 12 สวนสาธารณะ ครอบคลุม 6 โซนทั่วจังหวัดกรุงเทพ

และก็ เปิดให้ผู้จะนำเครื่องดนตรีมาเล่น หรือ ฝึกซ้อมการแสดงในโซนนี้ แต่ว่าต้องปฏิบัติตามกฎที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

บริเวณที่จัดให้เป็นโซนใช้เสียง มีดังต่อไปนี้

1. สวนลุมพินี เขตปทุมวัน: ศาลาภิรมย์ภักดี และก็ เวทีบันเทิง (2 จุด)
2. สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย: ลานแสดงกลางแจ้ง, ลานใกล้ทางขึ้นสกายวอล์ค (2 จุด)
3. อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย: ลานนก
4. สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เขตจตุจักร: ลานหญ้า บริเวณประตูจอดรถยนต์
5. สวนสันติชัยปราการ เขตพระนคร: ขั้นบันไดริมกำแพงป้อมพระสุเมรุ
6. สวนรมณีนาถ เขตพระนคร: ลานหน้าประตูคุกเก่า
7. สวน 60 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ (เคหะร่มเกล้า) เขตลาดกระบัง: ลานแอโรบิก
8. สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม: ลานเอนกประสงค์
9. สวนเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบฯ (สะพานพระราม 9): ศาลาดนตรีไทย
10. สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (สวนบางขุนนนท์) เขตบางกอกน้อย: ลานกิจกรรมริมบึง
11. สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด: ศาลาแปดเหลี่ยมริมน้ำ
12. สวนธนบุรีรมย์เขตทุ่งครุ: ลานนั่งเล่นแปลง 1, ลานแปลงปาล์ม, ลานกิจกรรมแอโรบิก (3 จุด)

กิจกรรมดนตรีในสวน

เทศกาล Colorful Bangkok 2022 คือ เทศกาลที่จัดขึ้นระหว่างพฤศจิกายน 2565 – เดือนมกราคม 2566 ซึ่งประกอบด้วย เทศกาลศิลปะสร้างสรรค์ เทศกาลแสงสี และก็ เทศกาลดนตรี โดยม.ค. ถือเป็นเดือนของเทศกาลดนตรี ที่จ.กรุงเทพฯ จะจัดกิจกรรม “ดนตรีในสวน” 28 ครั้ง ใน 10 พื้นที่

ทั้งในสวนสาธารณะ ศูนย์เยาวชน รวมทั้ง มิวเซียมสยาม โดยมีทั้งงานที่จัดโดยจังหวัดกรุงเทพมหานคร รวมทั้ง องค์กรภาคี มีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างพื้นที่แสดงฝีมือให้กับศิลปิน เยาวชน บุคคลทั่วไป แล้วก็ ศิลปินคนใหม่

ศิลปินมีชื่อเสียงจากค่ายเพลงต่างๆ ได้เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าว เหมือนกันกับจะเข้าร่วมสร้างสีสันให้กับเทศกาลดนตรีในสวน ที่จะจัดขึ้นตลอดทั้งม.ค. ได้แก่ SpicyDisc, Muzik Move, Idol Exchange, Space bar Music Hub, Papa Dude และก็ ยังมีอีกหลายค่ายที่แสดงความสนใจส่งศิลปินร่วมกิจกรรม

นอกนั้น ทรงกรุงเทพฯ ยังร่วมมือกับบริษัท ลิขสิทธิ์ดนตรี (ประเทศไทย) จำกัด (MCT) เพื่อทุกเพลงที่ประยุกต์ใช้แสดงในกิจกรรม เป็นเพลงที่ถูกตามลิขสิทธิ์ รวมทั้ง นักแต่งเพลง และก็ ศิลปิน จะมีรายได้จากผลงานเพลงที่แต่งไว้อีกด้วย

โครงการ Bangkok Street Performer ศิลปินเปิดหมวกกรุงเทพฯ

อีกหนึ่งแนวนโยบายสนับสนุนให้พื้นที่สาธารณะของจังหวัดกรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่แห่งดนตรี รวมทั้ง ศิลปะการแสดง (สตรีทโชว์) ทางกรุงเทพฯ จึงเปิดรับสมัครศิลปิน และ นักแสดง
(อีกทั้งศิลปินเดี่ยว รวมทั้ง กลุ่ม) ประเภทเยาวชน รวมทั้ง บุคคลทั่วไป เพื่อเล่นดนตรี และ แสดงสตรีทโชว์แบบเปิดหมวกได้ในพื้นที่สาธารณะ

จังหวัดกรุงเทพ เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ – 17 ม.ค. 2566 (เวลา 23.59 น.) แล้วก็ จะมีการพิจารณาผล โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงดนตรี รวมทั้ง การแสดง ประกาศผลศิลปินที่ผ่านการคัดเลือก ในวันที่ 20 เดือนมกราคม 2566 ผ่านทางเฟสบุ๊กแฟนเพจ: กรุงเทพมหานคร รวมทั้ง ทางอีเมล (สำหรับผู้ได้รับการคัดเลือกเท่านั้น)

ดนตรีกรุงเทพ ศิลปินที่ผ่านการคัดเลือกให้เป็น Bangkok Street Performer

จะได้รับ BKK Street Performer ID ซึ่งถือเป็นการรับรองประสิทธิภาพศิลปิน โดย ID จะมีอายุ 1 ปี (สามารถต่ออายุได้ เมื่อครบกำหนด)

1ศิลปิน สามารถนำ ID ดังที่กล่าวมาข้างต้น มาจองพื้นที่ เพื่อทำการแสดงได้ผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ แล้วก็ สามารถเลือกวัน เวลา และก็ สถานที่ที่ต้องการได้

โดยทางกรุงเทพมหานคร เป็นผู้กำหนดบริเวณทำการแสดงในพื้นที่สาธารณะต่างๆ พร้อม slot เวลาที่อนุญาตให้จองพื้นที่ได้ (ทดลองการจองพื้นที่ และก็ ทำการแสดงในม.ค. 2566 รวมทั้ง จะพิจารณาดำเนินการต่อเนื่อง หากว่าไม่มีข้อติดขัด)

2ศิลปิน สามารถกระทำการแสดงแบบเปิดหมวก เพื่อหาเงินจากความพึงพอใจของผู้ชมได้ โดยผู้ชมไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้จ่าย และก็ ห้ามมีการค้าขายสินค้าอื่นๆ

3ศิลปิน อาจได้รับเชิญให้ไปทำการแสดงในกิจกรรมดนตรีในสวน รวมทั้ง กิจกรรมอื่นๆ ที่จัดโดยจังหวัดกรุงเทพมหานคร หรือ ที่กรุงเทพมหานครร่วมเป็นเจ้าภาพ

4ศิลปิน Bangkok Street Performer จะต้องยอมรับ และก็ ทำตามข้อตกลง รวมทั้ง กฎระเบียบของโครงการอย่างเคร่งครัด

พื้นที่ที่เปิดให้ศิลปิน Bangkok Street Performer ในโครงการทำการแสดง (ตอนทดลอง 23 เดือนมกราคม – 28 กุมภาพันธ์)

1 พื้นที่ใน MRT สถานีจังหวัดกำแพงเพชร

2 พื้นที่ใน MRT สถานีจตุจักร

3 พื้นที่ใน MRT สถานีพระราม 9

4 พื้นที่ใน MRT สถานีสุขุมวิท

1. บริเวณทางเชื่อมยกฐานะแยกบัวก้านวัน

2. บริเวณทางเชื่อมยกฐานะ แยกสาทร-จังหวัดนราธิวาส

3. บริเวณทางเชื่อมยกระดับห้างไอคอนสยาม